ท้าวกุเรปันให้หาอิเหนากลับเมือง
|
|
|
ช้า
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระผู้ผ่านกุเรปันเป็นใหญ่
|
แจ้งว่าโอรสยศไกร
|
ไปอยู่ในหมันหยาธานี
|
จึงบัญชาใช้อำมาตย์
|
จงเร่งแต่งราชสารศรี
|
ไปหาอิเหนาว่าเรานี้
|
ให้กลับคืนบุรีรีบมา ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
ร่าย
|
|
๏ บัดนั้น
|
เสนีรับสั่งใส่เกศา
|
ออกมาแต่งสารศรีตีตรา
|
แล้วขึ้นม้าควบขับไปฉับพลัน ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
|
|
อิเหนาผัดทุเลาไม่ยอมกลับ
|
|
|
๏ ครั้นถึงหมันหยาธานี
|
ลงจากพาชีขมีขมัน
|
ตรงไปในวังประเสบัน
|
บังคมคัลระเด่นมนตรี
|
ทูลว่าองค์ศรีปัตหรา
|
ให้ข้ามาถวายสารศรี
|
เชิญเสด็จภูธรจรลี
|
กลับไปบุรีกุเรปัน ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีเฉิดฉัน
|
ฟังข่าวผ่านร้อนดั่งเพลิงกัลป์*
|
ให้คิดอัดอั้นตันใจ
|
จำเป็นจึงรับเอาสาร
|
ถือไว้จะอ่านก็หาไม่
|
แล้วว่าเสนาจงคลาไคล
|
กลับไปทูลองค์พระทรงธรรม์
|
ขอถวายบังคมลาอยู่ก่อน
|
จึงจะค่อยคืนนครเขตขัณฑ์
|
ตรัสพลางย่างเยื้องจรจรัล
|
ไปปราสาทสุวรรณกัลยา ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ
|
๏ บัดนั้น
|
เสนีพี่เลี้ยงพร้อมหน้า
|
เข้าทักทายเพื่อนกันที่มา
|
ชักชวนพูดจาไม่หยุดยั้ง
|
บ้างถามถึงถิ่นฐานบ้านช่อง
|
ลูกเมียพี่น้องอยู่ข้างหลัง
|
แล้วเล่าความในให้กันฟัง
|
ล้อมนั่งสนทนาพาที ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา
|
๏ บัดนั้น
|
เสนีที่ถือสารศรี
|
ครั้นแล้วก็ลาจรลี
|
ขึ้นพาชีรีบกลับมาฉับไว ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
๏ ครั้นถึงจึงคลานเข้าไปเฝ้า
|
ก้มเกล้าประนมบังคมไหว้
|
ทูลแถลงให้แจ้งพระฤทัย
|
โดยดังภูวไนยสั่งมา ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระปิ่นภพกุเรปันนาถา
|
ได้แจ้งแห่งคำพระลูกยา
|
ผ่านฟ้าเคืองแค้นแสนทวี
|
ทั้งเร่าร้อนฤทัยให้รำคาญ
|
ด้วยจวนจะแต่งการภิเษกศรี
|
จึงเสด็จย่างเยื้องจรลี
|
เข้าปราสาทมณีทันใด ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment