Latest News

Monday, May 27, 2013

อิเหนา : พี่เลี้ยงนางจินตะหราทูลท้าวหมันหยา (๕๖)

พี่เลี้ยงนางจินตะหราทูลท้าวหมันหยา


     ๏ จึงนบนิ้วประนมบังคมทูล
นเรนทร์สูรสองกษัตริย์นาถา
บัดนี้องค์อิเหนานัดดา
เสด็จมาปราสาทพระบุตรี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระตูผู้ผ่านกรุงศรี*
ทั้งองค์อัครราชเทวี
ได้ทราบคดีก็จนใจ
นิ่งนึกตรึกตราดูตากัน
พระทรงธรรมไม่ตรัสเป็นไฉน
ต่างเสด็จลีลาคลาไคล
เข้าในห้องทองที่ไสยา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ

     ๏ เมื่อนั้น
พระทรงโฉมประโลมเสนหา
เชยชมสมสวาทวนิดา
จนเวลาจวนรุ่งรวีวรรณ
ไก่ขันกระชั้นเสียงก้อง
พระสวมสอดกอดน้องแล้วรับขวัญ
พิศพักตร์วนิดายิ่งจาบัลย์
ทรงธรรม์สะท้อนถอนใจ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ร่าย

     ๏ น้องเอยน้องแก้ว*
ใกล้รุ่งขึ้นแล้วจะทำไฉน
สุดที่พี่ยาจะจากไป
ความรักหนักใจแสนทวี
จะใคร่อยู่สู่สมทรามสงวน
ถนอมนวลให้อิ่มใจพี่
จะคิดอ่านผ่อนผันฉันใดดี
ภูมีระทดระทวยองค์ ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นจินตะหรานวลหง
ให้อาศัยที่จะไกลพระโฉมยง
กราบก้มพักตร์ลงแล้วถอนใจ
พลางทูลภูวเรศเชษฐา
จะทำออกนอกหน้ากระไรได้
น้องนี้มิใคร่ให้จากไป
แต่เห็นไม่งามใจจงทรงคิด
แต่เพียงนี้ก็ละเมิดอยู่หนักหนา
พระบิตุเรศมารดาจะเคืองจิต
เชิญเสด็จก่อนเถิดพระทรงฤทธิ์
ค่อยคิดต่อไปเป็นไรมี ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
ได้ฟังจินตะหราพาที
ภูมีค่อยคลายวิญญาณ์
พระลูบหลังสั่งความทรามสงวน
อย่ารัญจวนเศร้าสร้อยละห้อยหา
แต่พลบค่ำวันนี้ที่จะมา
คอยท่าพี่เถิดนะดวงใจ
สั่งเสร็จเสด็จยุรยาตร
แสนสวาทมิใคร่จะไปได้
เหลียวหลังดูนางพลางถอนใจ
พระฝืนพักตร์หักพระทัยไคลคลา ฯ*
ฯ ๖ คำ ฯ เพลง
     ๏ ครั้นถึงประเสบันอากง
ก็สระสรงทรงอุหรับจับมังสา
สุคนธารประปรายละลายทา
กลบรอยนขานารี
กิดาหยันหมอบกรานอยู่งานพัด
พระทรงเครื่องเรืองรัตน์จำรัสศรี
จับชายกรายกรจรลี
ออกมานั่งยังที่แท่นสุวรรณ ฯ*
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
     ๏ บัดนั้น
ประสันตาลิ้นลมคมสัน
ยิ้มพลางทางว่าแก่เพื่อนกัน
คืนนี้อัศจรรย์ประหลาดใจ
แต่พลบค่ำย่ำฆ้องจนตีสิบเอ็ด
ใครยังรู้ว่าเสด็จไปข้างไหน
ดูดู๋ช่างไม่ระวังระไว
ให้พระไปแต่ลำพังไม่บังควร
จนผิวเผือดวิปริตผิดแต่ก่อน*
ทั้งพระกรก็ยับย่อยเป็นรอยข่วน
กลับมาเมื่อสว่างเห็นครางครวญ
จะประชวรฉันใดก็ไม่รู้*
เห็นทีจะถูกปีศาจ
รังแกร้ายกาจทายาดอยู่
พลางหยิบเบี้ยบนขึ้นถือชู
เทวดาเอ็นดูได้ปรานี
จะถวายสิ่งของที่ต้องใจ
เป็ดไก่แกล้มเหล้าข้าวบุหรี่
ขอให้พระไปดีมาดี
ทุกทุกราตรีอย่าเว้นวาย
ให้เสด็จแต่วันอย่าทันค่ำ
คลึงเคล้าเฝ้าประจำอยู่จนสาย
จะแต่งเครื่องสังเวยให้มากมาย
ถ้าจะกินถวายเทวัญ
ว่าพลางทางแกว่งเบี้ยบน*
ทำตามเล่ห์กลคนขยัน
พวกเสนีพี่เลี้ยงทั้งนั้น
หัวร่อขึ้นพร้อมกันทันที ฯ
ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา
     ๏ เมื่อนั้น
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
ตรัสว่าน่าชังเช่นนี้
ไม่พอที่จะเอามาเจรจา
งดปากอยู่ไม่ได้น่าใคร่ถอง
ถึงถูกต้องผีสางก็ช่างข้า
ยิ้มพลางทางเสด็จลีลา
เข้าห้องไสยาบรรทมใน ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
     ๏ เมื่อนั้น
ระตูหมันหยาเป็นใหญ่
ครั้นรุ่งแจ้งแสงสุริโยทัย
ภูวไนยสระสรงวารี
ลูบไล้สุคนธาอ่าองค์
บรรจงทรงเครื่องเรืองศรี
พระกรกุมกริชฤทธี
จรลีมายังพระโรงคัล ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
     ๏ ลดองค์ลงเหนือแท่นที่นั่ง
จึงดำรัสตรัสสั่งกิดาหยัน
จงไปหาตำมะหงงกุเรปัน
กับสี่พี่เลี้ยงนั้นเข้ามา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
กิดาหยันรับสั่งใส่เกศา
ก้มเกล้าถวายบังคมลา
รีบมาประเสบันมันใด ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
     ๏ ครั้นถึงจึงแถลงแจ้งคดี
แก่ตำมะหงงเสนีผู้ใหญ่
กับสี่พี่เลี้ยงภูวไนย
รับสั่งให้ไปเฝ้าบัดนี้ ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
     ๏ บัดนั้น
ตำมะหงงได้ฟังถ้วนถี่
ก็นึกเดาเข้าใจในที
ชะรอยเหตุคืนนี้เป็นมั่นคง
แล้วชวนสี่พี่เลี้ยงพระโฉมงาม
มาไปเฝ้าฟังความตามประสงค์
ออกจากประเสบันอากง
เดินตรงเข้าไปในวัง ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด



อิเหนา : พี่เลี้ยงนางจินตะหราทูลท้าวหมันหยา (๕๖)
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top