อิเหนาเข้าเฝ้าท้าวกุเรปัน
|
|
|
ช้า
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
โฉมยงองค์ประไหมสุหรี
|
เห็นอิเหนาเข้ามาอัญชลี
|
จึงมีมธุรสพจนา
|
นี่หากว่าชีวันไม่บรรลัย
|
จึงได้เห็นพักตร์โอรสา
|
มิเสียแรงกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมา
|
เสนหาก็ไม่เสียที*
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ระเด่นมนตรีเรืองศรี
|
ก้มเกล้าทูลสนองพระเสาวนีย์
|
อันโทษาลูกนี้ผิดนัก
|
ได้ทูลลาว่าจะมาเป็นหลายหน
|
สองประหมันนั้นก่นแต่หน่วงหนัก
|
ต่างองค์อาลัยด้วยใจรัก
|
หาญหักห้ามไว้มิให้มา
|
ต่อได้แจ้งอาการในสารศรี
|
ว่าชนนีจะคลอดโอรสา
|
พระจึงอวยให้ลูกไคลคลา*
|
รีบเดินทั้งทิวาราตรี
|
จะว่าไปก็ในลูกผิดเอง*
|
เหมือนไม่เกรงเบื้องบาทบทศรี
|
ถึงประหมันมิให้จรลี
|
แม้นมิฟังใช่ที่จะทำไม
|
ตกแต่งเกรงผู้อื่นนั้นยิ่งกว่า
|
พระบิตุเรศมมารดาเป็นใหญ่
|
ลูกได้พลั้งผิดคิดเบาใจ
|
ขอพระองค์จงได้เมตตา
|
แล้วทูลถวายของขวัญ
|
สองประหมันประทานขนิษฐา
|
พระพินิจพิศโฉมวิยะดา
|
เสนหาพ่างเพียงดวงใจ
|
พลางดูทำนองสองกษัตริย์
|
เห็นค่อยคลายเคืองขัดอัชฌาศสัย
|
จึงบังคมลาคลาไคล
|
เสด็จไปที่อยู่พระภูมี
|
ฯ ๑๔ คำ ฯ เสมอ
|
ช้า
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป
|
ถึงท้าวดาหาเรืองศรี
|
แจ้งว่าพระเชษฐาธิบดี
|
มีราชบุตรีโสภา
|
จึงให้จัดของขวัญทันใด
|
ตามในสุริย์วงศ์อสัญหยา
|
ทั้งของตุนาหงันกัลยา
|
ให้อะหนะสียะตราลูกรัก
|
ตำมะหงงจงนำสารไป
|
กราบทูลภูวไนยให้ประจักษ์
|
ว่าเรากับขนิษฐาสามิภักดิ์
|
คิดถึงพระทรงศักดิ์เป็นพ้นไป
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
ร่าย
|
|
๏ บัดนั้น
|
ตำมะหงงรับสั่งบังคมไหว้*
|
ออกมาจัดของขวัญทันใด
|
ใส่ในราชรถเรียงรัน
|
ตำมะหงงเสนีนั้นขี่ม้า
|
รีบยกโยธาผายผัน
|
นอนทางค้างแรมมาหลายวัน
|
ตรงไปกุเรปันธานี*
|
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
|
๏ พอพบเสนาเมืองกาหลัง
|
อีกทั้งสิงหัดส่าหรี
|
สามนายก็พากันจรลี*
|
เข้าในบุรีกุเรปัน
|
ไปหายาสาตำมะหงง
|
จึงส่งบรรณาการของขวัญ
|
เวลาเฝ้าองค์พระทรงธรรม์
|
ก็พากันเข้าสู่พระโรงชัย
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ ต่างประนมก้มเกล้าเคารพ
|
พระปิ่นภพกุเรปันเป็นใหญ่
|
ตำมะหงงมหาเสนาใน
|
ทูลไปให้แจ้งกิจจา
|
บัดนี้พระอนุชาทั้งสาม
|
มีความโสมนัสเป็นหนักหนา
|
ให้เสนีนำบรรณาการมา*
|
ทำขวัญพระนัดดายาใจ
|
แต่ศรีปัตหราดาหานั้น
|
ตุนาหงันพระบุตรีศรีใส*
|
ให้สียะตราโอรสยศไกร
|
ตามในสุริย์วงศ์เทวา*
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment