ระตูสามพี่น้องยกพลมาถึงเขาปะราปี
|
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป
|
ถึงสามระตูผู้แกล้วกล้า
|
ร่วมพระบิตุเรศมารดา
|
เชษฐาครองปันจะรากัน
|
มีราชธิดานารี
|
ชื่อสการะวาตีสาวสรรค์
|
ระตูผู้น้องถัดนั้น
|
ครองรักมาหงันพระนคร
|
ท้าวมีพระราชบุตรี
|
ชื่อมาหยารัศหมีศรีสมร*
|
อันองค์อนุชาบังอร
|
นามกรสังคามาระตา
|
ระตูผู้น้องที่สุด
|
ครองเมืองชื่อบุศสิหนา
|
ไร้คู่ตุนาหงันกัลยา
|
พระเชษฐาสงสารรำคาญใจ
|
จึงไปขอธิดาปะตาหรำ
|
มาทำวิวาห์การใหญ่
|
เสร็จแล้วเลิกพหลพลไกร
|
สามกษัตริย์จะไปพารา ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด
|
๏ มาถึงเนินทรายชายทุ่ง
|
เชิงกุหนุงปะราปีภูผา
|
พระแลไปบนยอดบรรพตา
|
เห็นบรรณศาลาก็ยินดี
|
จึงตรัสชวนอนุชาชาญชัย
|
จะแวะขึ้นไปไหว้พระฤๅษี
|
พลางสั่งให้หยุดโยธี
|
แทบที่แนวน้ำลำธาร
|
ทั้งสามองค์ลงจากราชรถ
|
พร้อมทศโยธาทวยหาญ
|
ไม่ทรงสีวิกามาศราชยาน
|
เสด็จเดินไปสถานพระสิทธา ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ เพลง
|
๏ ถึงบริเวณวงที่จงกรม
|
พ่างพื้นรื่นร่มด้วยพฤกษา
|
จึงเข้าไปในบรรณศาลา
|
ต่างถวายวันทาพระมุนี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์สังปะติเหงะฤๅษี
|
เห็นสามทรงธรรม์มาอัญชลี
|
พระมุนีจึงปราศรัยไป
|
ดูราบรมบพิตร
|
มีกิจกังวลเป็นไฉน
|
ยกพยุหโยธาคลาไคล
|
มาไยในอรัญกันดาร
|
อันนิเวศน์เขตขอบบุรีรัตน์
|
ยังไพบูลย์พูนสวัสดิ์เกษมศานต์
|
หรือเกิดเหตุเภทภัยพ้องพาน
|
จึงละราชฐานบ้านเมืองมา ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ท้าวปันจะรากันเชษฐา
|
นบนอบตอบคำพระสิทธา
|
อาณาจักรนคราก็ถาวร
|
ปราศจากศัตรูหมู่ภัยพาล
|
ประชาชนชื่นบานสโมสร
|
ซึ่งโยมยกโยธาพลากร
|
ดัดดั้นดงดอนมาทางนี้
|
ไปแต่งการสยุมพรอนุชา
|
ด้วยธิดาปะตาหรำบุรีศรี
|
เสร็จสรรพแล้วจะกลับไปธานี
|
จึงแวะมาอัญชลีพระอาจารย์ ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
โยธาสามระดับผู้ห้าวหาญ
|
เร่งรัดจัดแจงจับการ
|
อลหม่านอึงมี่นี่นั่น
|
ต่างปลูกที่ประทับพลับพลา
|
หลังคาคาดสีมู่ลี่กั้น
|
ทั้งสามเหล่าแล้วเสร็จสำเร็จพลัน
|
เรียงรันริมน้ำลำเนา
|
พลับพลาระตูอยู่ข้างนี้
|
ปันหยีอยู่ข้างละฟากเขา
|
ข้ามละเมาะทุ่งหญ้าป่าแขมเลา
|
ระยะทางพอเช้าชั่วงาย ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
ท้าวบุศสิหนาเรืองฉาย
|
เมื่อจะสิ้นอาสัญวันตาย
|
เผอิญให้ไม่สบายวิญญาณ์
|
เดือดดาลร่านร้อนอารมณ์
|
นั่งในอาศรมไม่หรรษา
|
จึงบังคมพระมุนีลีลา
|
ลงไปพลับพลาเชิงคีรี ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ
|
๏ เข้าในห้องสุวรรณบรรจง
|
นั่งแนบแอบองค์มเหสี
|
เชยชมสมสุขเปรมปรีดิ์
|
อยู่บนที่แท่นแก้วแพรวพรรณ ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment