เกิดนางบุษบา
|
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีดาหา
|
อยู่เย็นเป็นสุขทุกทิวา
|
นานมาโฉมยงทรงครรภ์
|
เมื่อจะประสูติพระดนัย
|
เวลาปัจจุสมัยไก่ขัน
|
บังเกิดมหัศอัศจรรย์
|
กลิ่นสุคันธรสรวยริน
|
ดอกไม้ทุกพรรณก็บันดาล*
|
เบิกบานเกสรขจรกลิ่น
|
ภุมเรศร่อนร้องโบยบิน
|
ประสานเสียงเพียงพิณพาทย์ฆ้อง
|
ดนตรีแตรสังข์ก็ดังเอง
|
อัศจรรย์บรรเลงกึกก้อง
|
ครั้นอรุณรุ่งรางสร่างแสงทอง
|
ดังแสงรุ้งเรืองรองอร่ามไป
|
สุรศรีดังสีธรรมชาติ
|
เลื่อมพรายโอภาสผ่องใส
|
จึงประสูติธิดายาใจ
|
งามวิไลล้ำเลิศเพริศพราย
|
อันอัศจรรย์ที่บันดาล
|
ก็อันตรธานสูญหาย
|
ยังแต่กลิ่นหอมรวยชวยชาย
|
จึงถวายพระนามตามเหตุนั้น
|
ชื่อระเด่นบุษบาหนึ่งหรัด
|
ลออเอี่ยมเทียมทัดนางสวรรค์
|
ทั้งในธรณีไม่มีทัน*
|
ผิวพรรณผุดผ่องดังทองทา
|
อันองค์มะเดหวีมีศักดิ์
|
ถนอมอุ้มฟูมฟักรักษา
|
ทั้งสามมเหสีโสภา
|
รักราชธิดาดังดวงใจ
ฯ
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระผ่านภพดาหากรุงใหญ่
|
แสนสวาทพระราชดนัย
|
ดังดวงฤทัยทรงธรรม์
|
จึงจัดสี่พี่เลี้ยงพระธิดา
|
คนนั้นชื่อว่าบาหยัน
|
หนึ่งชื่อส่าเหง็ดลาวัณย์
|
หนึ่งชื่อประเสหรันนารี
|
หนึ่งชื่อปะลาหงันกัลยา
|
ตามตำราชื่อตั้งทั้งสี่*
|
แล้วจัดสรรกำนัลที่รูปดี
|
นารีน้อยน้อยแปดร้อยปลาย
|
บรรดาบุตรเสนาน้อยใหญ่
|
ต่างคนเต็มใจเอาไปถวาย
|
พระประทานรางวัลมากมาย
|
มอบให้เจ้าขรัวยายบังคับ
|
บ้างหัดร้องลำนำจำเรียง
|
ประสานเสียงซักซ้อมกล่อมขับ
|
บ้างหัดซอกระจับปี่ตีโทนทับ*
|
สำหรับบำเรอพระธิดา
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment