เกิดอิเหนากุเรปัน
|
|
๏
เมื่อนั้น
|
องค์ประไหมสุหรีเฉิดฉัน
|
ตั้งแต่เกิดเหตุมหัศจรรย์
|
นับได้เจ็ดวันเจ็ดคืนมา
|
พระครรภ์ครบกำหนดทศมาส
|
จนประสูติพระราชโอรสา
|
ให้เจ็บปวดรวดเร้าทั้งกายา
|
ประหนึ่งว่าชีวิตจะอันตราย ฯ
|
๏ บัดนั้น
|
ฝูงสุรางค์นางกำนัลทั้งหลาย*
|
ทั้งเถ้าแก่ชะแม่เจ้าขรัวนาย
|
เห็นโฉมฉายปั่นป่วนประชวรครรภ์
|
บ้างเข้าหนุนพระขนองประคองรับ
|
กำชับหมอตำแยที่แปรผัน
|
บ้างไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์
|
บังคมคัลทูลแถลงให้แจ้งใจ ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระผู้ผ่านพิภพกรุงใหญ่
|
ฟังข่าวเร่าร้อนฤทัย
|
ภูวไนยก็รีบลีลา ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
|
๏ ครั้นถึงพระจึงเสด็จนั่ง
|
เหนือสุวรรณบัลลังก์เลขา
|
พร้อมสี่มเหสีกัลยา
|
สุริย์วงศ์พงศามากมี ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
โฉมยงองค์ประไหมสุหรี
|
ครั้นได้ฤกษ์พานาที
|
เทวีก็ประสูติพระกุมาร
|
ชาวประโคมก็ประโคมแตรสังข์
|
พร้อมพรั่งจำเรียงเสียงประสาน
|
อันอัศจรรย์ซึ่งบันดาล
|
ก็อันตรธานทันใด ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ มโหรี
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์มะเดหวีศรีใส
|
จึงเอาข่ายแก้วแววไว
|
รับพระดนัยโฉมยง
|
แล้วเอาน้ำดอกไม้ใสสด
|
มารินรดชำระสระสง
|
ลูบไล้ด้วยเครื่องสุคนธ์ทรง
|
วางลงบนยี่ภู่พานสุวรรณ ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏
เมื่อนั้น
|
องค์ศรีปัตหรารังสรรค์
|
พิศโฉมลูกยาลาวัณย์
|
สารพันงามสิ้นทั้งอินทรีย์
|
ดำแดงแน่งเนื้อนวลผจง
|
น่ารักรูปทรงส่งศรี
|
สมหมายเหมือนถวิลยินดี
|
เสน่หาพ้นที่จะพรรณนา ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏
บัดนั้น
|
ท้าวนางข้างในถ้วนหน้า
|
ทั้งเถ้าแก่ชะแม่จ่าชา
|
ก็จัดสรรภรรยาเสนี
|
เป็นนางนมสมบูรณ์ด้วยรูปร่าง
|
ครบถ้วนตามอย่างหกสิบสี่
|
เว้นโทษขาวดำผอมพี
|
ไม่มีต่ำสูงเสมอกัน
|
แล้วจัดเหล่านารีพี่เลี้ยง
|
ที่ควรเคียงถือต้องประคองขวัญ
|
สี่อนงค์ทรงลักษณ์ลาวัณย์
|
ล้วนวงศ์พงศ์พันธุ์กษัตรา
|
กับนางกำนัลน้อยน้อย
|
สองร้อยรูปร่างโอ่อ่า
|
ทั้งเงินทองของขวัญนานา
|
นำมาถวายทันที ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น
|
จึงมหาอำมาตย์ทั้งสี่
|
กับทั้งเหล่าเสนามนตรี
|
แต่บรรดาที่มีบุตรนั้น
|
ให้จัดแจงแต่งตัวทั้งแปดร้อย
|
ล้วนน้อยน้อยหน้าตาคมสัน
|
พาไปเฝ้าพระองค์ทรงธรรม์
|
ถวายเป็นข้าขวัญพระกุมาร ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระปิ่นปักนคเรศราชฐาน
|
ชื่นชมโสมนัสเบิกบาน
|
จึงมีบัญชาการตรัสไป
|
อันบุตรเสนาปาเตะ
|
ตั้งที่ยะรุเดะพี่เลี้ยงใหญ่
|
บุตรตำมะหงงเสนาใน
|
ตั้งให้เป็นที่ปูนตา
|
อันบุตรตะหมังมนตรี
|
ตั้งเป็นที่ประสันตาครบครัน
|
พื้นดรุณรุ่นหนุ่มน้อยน้อย
|
รูปร่างแช่มช้อยเฉิดฉัน
|
พระสั่งให้ประทานรางวัล
|
ตามหลั่นพี่เลี้ยงแลมนตรี ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
ฝ่ายสามอนุชาเรืองศรี
|
อีกองค์สมเด็จพระอัยกี
|
กับประไหมสุหรีหมันหยานั้น
|
ทั้งระตูภูธรทุกประเทศ
|
ครั้นเห็นเหตุวิปริตผิดผัน
|
ต่างองค์ทรงคิดอัศจรรย์
|
ให้สงสัยไหวหวั่นหฤทัย
|
บ้างให้ค้นดูตำรับข้างที่*
|
จดหมายเหตุคัมภีร์น้อยใหญ่
|
คนแก่เฒ่าก็เอามาซักไซ้
|
บ้างถามไถ่โหราพฤฒาจารย์
|
บ้างให้หาบีกูประมาหนา
|
ฤๅษีชีป่าในไพรสาณฑ์
|
ที่ได้กสิณอภิญญาณ
|
ก็แจ้งการทำนายมาเหมือนกัน
|
ต่างรู้ประจักษ์แจ้งแห่งเหตุ
|
ผู้มีเดชลงมาจากสวรรค์
|
เป็นโอรสท้าวกุเรปัน
|
จะประสูติจากครรภ์พระชนนี
|
อันท้าวดาหาแลกาหลัง
|
อีกทั้งท้าวสิงหัดส่าหรี
|
กับองค์อัครราชเทวี
|
ชื่นชมยินดีเป็นสุดคิด
|
จึงจัดของขวัญพระกุมาร
|
สร้อยสนสังวาลวิภูษิต
|
มงกุฎแก้วกุณฑลตาบทิศ
|
ตามอย่างราชนิติ์บุราณมา
|
ให้มหาเสนานำของไป
|
ยังกรุงไกรบรมเชษฐา
|
เฉลิมขวัญพระราชนัดดา
|
โดยตำราตราตั้งจิรังกาล
|
ฝ่ายองค์สมเด็จพระอัยกี
|
ในหมันหยาธานีราชฐาน
|
จัดระเด่นดาหยนกุมาร
|
ซึ่งเป็นวงศ์วานกษัตรา
|
กับพี่เลี้ยงและนางนม
|
ล้วนอุดมรูปทรงวงศา
|
ชายหญิงสิ่งละร้อยโดยตรา
|
มอบให้เสนานำไป ฯ
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น
|
เสนาหมันหยากรุงใหญ่
|
ถวายบังคมลาคลาไคล
|
ออกจากพิชัยธานี
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
|
๏ เร่งรัดรีบมาสิบห้าวัน
|
ก็ลุถึงกุเรปันกรุงศรี
|
พบทูตทั้งสามพระบุรี
|
พากันจรลีเข้าวังใน
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงจึงตรงเข้าไปหา
|
ปาเตะเสนาแลดะหมัง
|
ต่างแถลงแจ้งความให้ฟัง
|
แล้วพากันมาพระโรงชัย
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น
|
ท้าวนางกำนัลน้อยใหญ่
|
ครั้นถึงวันสมโภชพระดนัย
|
ก็วุ่นวายวิ่งไขว่ไปทั้งวัง
|
เร่งให้หาโหราพราหมณ์ชี
|
ชาวประโคมดนตรีแตรสังข์
|
เอาขันสาครใหญ่ในคลัง
|
มันจัดแจงแต่งตั้งเตียงรอง
|
ปักสุวรรณราชวัติฉัตรธง
|
รายรอบที่สรงเป็นแถวถ้อง
|
ทั้งมะพร้าวเต่าปลาเงินทอง
|
จัดต้องตามธรรมเนียมเตรียมไว้
|
ตั้งบายศรีเงินทองสองสำรับ
|
แซมยอดสอดประดับดอกไม้ไหว
|
สังข์กรดแว่นเวียนเทียนชัย
|
แต่งไว้เสร็จถ้วนทุกสิ่งอัน
ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์ศรีปัตหรารังสรรค์
|
เวลาควรจวนฤกษ์ก็จรจรัล
|
ไปปราสาทสุวรรณพระโอรส
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
|
|
๏ นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์รูจี
|
พร้อมพระมเหสีทั้งปวงหมด
|
ต่างกราบบาทบงสุ์พระทรงยศ
|
พอกำหนดพระฤกษ์เวลา
|
จึงให้เชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่
|
เข้าอุ้มองค์พระดนัยเสนหา
|
เชิญสี่บีกูนั้นเข้ามา
|
จำเริญเกศาพระกุมาร
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ แล้วเชิญลงสรงน้ำในสาคร
|
อับอบอายเกสรหอมหวาน
|
ชีพราหมณ์พฤฒาโหราจารย์
|
ต่างอ่านพระเวทย์ถวายชัย
|
ราชครูบีกูทั้งสี่*
|
เอาสุคนธ์วารีมาสรงให้
|
แล้วเชิญลงอู่แก้วแววไว
|
อ่านมนต์แกว่งไกวไปมา
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
ยานี
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป
|
ถึงองค์อสัญแดหวา
|
ซึ่งเป็นบรมอัยกา
|
สถิตยังชั้นฟ้าสุราลัย
|
จึงนิมิตกริชแก้วสุรกานต์
|
นามกรพระหลานจารึกใส่
|
ครั้นเสร็จเสด็จจากวิมาชัย
|
เหาะมากรุงไกรกุเรปัน
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ รัว
|
|
ร่าย
|
|
๏ ครั้นถึงจึงวางกริชลง
|
ข้างองค์พระกุมารหลานขวัญ
|
อวยชัยให้พรแล้วเทวัญ
|
กลับคืนกระยาหงันชั้นฟ้า
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
องค์มะเดหวีเสนหา
|
ประคองกรช้อนอุ้มพระลูกยา
|
เชิญมาจากอู่อำไพ
|
เห็นกริชนั้นวางอยู่ข้างที่
|
มารศรีหลากจิตคิดสงสัย
|
จึงหยิบมาดูด้วยดีใจ
|
แล้วถวายภูวไนยฉับพลัน
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระผู้ผ่านโภไคยไอศวรรย์
|
ชื่นชมโสมนัสอัศจรรย์
|
เอากริชนั้นออกพิจารณา
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ จึงเห็นจารึกอักษร
|
นามกรพระโอรสา
|
ชื่อหยังหยังหนึ่งหรัดอินดรา
|
อุดากันสาหรีปาตี
|
อิเหนาเองหยังดาหลา
|
เมาะตาริยะกัดดังสุรศรี
|
ดาหยังอริราชไพรี
|
เองกะนะกะหรีกุเรปัน ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นอ่านเสร็จสิ้นในอักษร
|
ภูธรยิ่งแสนเกษมสันต์
|
จึงยอกรถวายอภิวันท์
|
อัยกาทรงธรรม์เลิศไกร
|
พระมาช่วยอุปถัมภ์บำรุง
|
จะลือเกียรติทุกกรุงน้อยใหญ่
|
สมคำโหรทายทำนายไว้
|
ประจักษ์ในนิมิตแต่เดิมมา
|
แล้วสั่งประโคมเป็นสำคัญ
|
เฉลิมขวัญพระโอรสา
|
เอาฤกษ์ได้กริชเทวา
|
เป็นมหามหัศอัศจรรย์
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นเสร็จสมโภชพระดนัย
|
พระผู้ผ่านโภไคยไอศวรรย์
|
จึงสั่งพนักงานทั้งปวงนั้น
|
ให้จัดสรรเครื่องใช้แลเครื่องทรง
|
มงกุฎเพชรพาหุรัดจำรัสเรือง
|
กับเมืองขึ้นสิบเมืองเป็นส่วยส่ง
|
ทั้งเสนีรี้พลจัตุรงค์
|
ประทานองค์โอรสยศไกร
ฯ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นเสร็จพระเสด็จเยื้องย่าง
|
จากปรางค์ปราสาททองผ่องใส
|
มายังโรงคัลทันใด
|
เสนาในเฝ้าแหนแน่นนันต์
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
|
|
๏ บัดนั้น
|
ปาเตะเสนาคนขยัน
|
จึงนำเสนีสี่เมืองนั้น
|
มาบังคมคัลมิทันนาน
ฯ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ แล้วทูลว่าสามกษัตริย์ทรงเดช
|
ผู้ดำรงนคเรศราชฐาน
|
ให้เสนีนำของมาประทาน
|
พระหลานรักราชสุริย์วงศ์
|
แต่องค์สมเด็จพระอัยกี
|
ให้หมันหยาธานีสูงส่ง
|
ให้ระเด่นดาหยันโฉมยง
|
ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์พงศ์พันธุ์
|
ทั้งหมู่ชายหญิงสิ่งละร้อย
|
ล้วนหนุ่มน้อยหน้าตาคมสัน
|
กับพี่เลี้ยงนางนมทั้งนั้น
|
ถวายเป็นข้าขวัญพระนัดดา
ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น
|
พระสุริย์วงศ์ศรีปัตหรา
|
ชื่นชมโสมนัสปรีดา
|
จึงมีบัญชาตรัสไป
|
ซึ่งพระมารดาการุญ
|
พระคุณนั้นหาที่สุดไม่
|
ท่านจงทูลแถลงให้แจ้งใจ
|
ว่าเราบังคมไปใต้บาทา*
|
อันพระอนุชาสามธานี
|
เรานี้ขอบใจเป็นหนักหนา
|
จงจำเริญสุขทุกเวลา
|
อันตรายโรคาอย่าแผ้วพาน
|
แล้วประทานเสื้อผ้าแก่เสนี
|
ซึ่งมาแต่สี่ราชฐาน
|
อันระเด่นดาหยนกุมาร
|
พระประธานเงินทองของพึงใจ
|
ให้อยู่ยังที่ติกาหลัง
|
นิเวศน์วังลูกหลวงอาศัย
|
ครั้นเสร็จเสด็จเข้าข้างใน
|
เสนีกลับไปพารา
ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
อิเหนา : เกิดอิเหนากุเรปัน (๖)
- Title : อิเหนา : เกิดอิเหนากุเรปัน (๖)
- Posted by :
- Date : Saturday, July 28, 2012
- Labels : บทละครรำ, อิเหนา
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment