ชมพระนครทั้ง ๔
|
|
๏ อันสี่ธานีราชฐาน
|
กว้างใหญ่ไพศาลนักหนา
|
เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธา
|
สนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย
|
มีปราสาททั้งสามตามฤดู
|
เสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย
|
หลังคาฝาผนังนอกใน
|
|
ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบก
|
ยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง
|
แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยอง
|
บัญชรช่องชัชวาลบานบัง
|
พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถง
|
ท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง
|
พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์
|
กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา
|
บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณ
|
มีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา
|
ที่เสวยที่สรงคงคา
|
ที่นั่งเย็นอยู่หน้ามณเฑียรทอง
|
พรรณไม้ดอกลูกปลูกกระถาง
|
ไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง
|
ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากลอง
|
อิฐทองปูลาดสะอาดตา
|
มีทิมที่ล้อมวงองครักษ์
|
นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา
|
โรงแสงโรงภูษามาลา
|
เรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน
|
โรงเครื่องเนื่องกันเป็นหลั่นลด
|
โรงม้าโรงรถคชสาร
|
ติกาหรังสำหรับพระกุมาร
|
อยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
|
๏ ประตูลึกลงท่าชลาลัย
|
มีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง*
|
เรือศรีสุวรรณบัลลังก์
|
เรือแข่งเรือที่นั่งทั้งบนม้า
|
เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบก
|
งามกระหนกลวดลายท้ายหน้า
|
พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตรา
|
เกณฑ์พรให้รักษานาวี
|
ตำหนักแพแลถ้ำอำไพ
|
มุขลดพาไลหลังคาสี
|
ช่อฟ้าหน้าบันปราลี
|
ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล
|
ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำกรง
|
สำหรับราชสุริวงศ์สรงสนาน
|
เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน
|
ผูกม่านมู่ลี่ลายทอง
|
ฤดูเดือนสิบเอ็ดเสด็จลง
|
ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง
|
ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง
|
ดั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์
|
อันถนนหนทางท้องฉนวน
|
ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร
|
มีตึกแถวทิมริมรอบขอบคัน
|
เรือสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
สมิงทอง
|
|
๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่น*
|
พ่างพื้นปัถพีไม่มีหญ้า*
|
กว้างใหญ่ไพศาลสุดตา
|
เดียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง
|
มีสุวรรณพลับพลาบนปราการ
|
สูงตระหง่านเงื้อมฟ้าสิบห้าห้อง*
|
ช่อฟ้าปราลีลำยอง
|
ฉลักฉลุบุทองอร่ามไป
|
สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนาน
|
ล่อแพนผัดพาฬเป็นการใหญ่
|
ประลองเหล่าทหารชาญชัย
|
ยิงธนูศรใส่ยาพิษ
|
ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่น
|
แม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด*
|
โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิด
|
เพลงกริชสันทัดทั่วทุตัวคน
|
บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชี
|
ขับขี่เคยศึกฝึกฝน
|
ประลองคชสารสู้บำรูชน
|
ให้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์
|
มีปราการแก้วกั้นสูงสุด
|
ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุท
|
ประตูลักช่องกุดสลับกัน
|
มีทิมแถวโรงช้างระวางค่าย
|
เชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขันธ์
|
หอรบและล้างนางจรัล
|
ป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด
|
รายปืนจินดาจังกาส่อง
|
วางประจำทุกช่องเสมาหมด
|
เชิงเทินดังเนินบรรพต
|
บันไดลดเลี่ยนลานสะอาดตา ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ชมตลาด
|
|
๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศ
|
ลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา
|
บ้านช่องสองขางมรรคา
|
ล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน
|
เหล่าพวกกรมเจ้าท่าภาษี
|
มั่งมีสมบัติพัสถาน*
|
เรือนริมรัถยาฝากระดาน
|
ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง
|
สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยา
|
ก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง
|
ศาลเทพารักษ์หลักเมือง
|
นับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร
|
เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์
|
ทำตามประเพณีพิธีไสย
|
หอกลองอยู่กลางเวียงชัย
|
แม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา
|
สะพานช้างทางข้ามคชสาร
|
ก่ออิฐปูกระดานไม้หนา
|
คลองหลอดแลลิ่วสุดตา*
|
น้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง
|
นาวาค้าขายพายขึ้นล่อง
|
ตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง
|
แพจอดตลอดท่าหน้าเมือง*
|
นองเนืองเป็นขนัดในนที
|
ข้าวของต่างต่างเอาวางขาย
|
แพรม้วนมากมายหลายสี
|
ยกท่องล่องจวนเจ็ดตะคลี
|
พลอยมณีเพชรนิลจินดา
|
บริบูรณ์พูนสุขสมบัติ
|
แก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา
|
ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนา
|
ย่อมเยาราคาสารพัน ฯ
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
เบ้าหลุด
|
|
๏ ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์
|
มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์
|
สำเภาจอดทอดท่าเรียงรัน
|
สลุบแขกกำปั่นวิลันดา
|
จีนจามอะแจแซซ้อง
|
คับคั่งทั้งสิบสิงภาษา
|
แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา
|
ถ้วนหน้าประชาชนมนตรี
|
บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาท
|
พิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่
|
พวกขุนนางต่างหัดมโหรี
|
สาวสาวเสียงดีมีหลายคน
|
บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนาน
|
มีงานการกึกก้องทุกแห่งหน
|
บ้างตั้งบ่อนปลากัดนัดไก่ชน
|
ทรหดอดทนเป็นเดิมพัน
|
บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะ
|
ชนแพะแกะกระบือคู่ขัน
|
บ้างเล่นว่าวกุลาคว้าพนัน
|
ปักเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา
|
ราตรีมีหนังประชันเชิด
|
ฉลุฉลักลายเลิศเลขา
|
บ้างเล่นเพลงครึ่งท่อนกลอนสักวา
|
ทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
ชมตลาด
|
|
๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุง
|
ก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน
|
ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์
|
หวีผมคมสันกันไร
|
ที่ลูกเหล่าเผ่าพงศ์พวกผู้ดี
|
รูปทรงส่งศรีผ่องใส
|
ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นนางใน
|
ถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู
|
ลางพวกพึ่งดรุณรุ่นสาว
|
เจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่
|
บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้
|
หมากพลูพวงมาลัยให้กัน
|
พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดชาย
|
มุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน
|
หยอกเอินเดินเพียงเมียงมัน
|
ติดพันพูดจาเป็นแยบคาย
|
บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลง
|
ล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย
|
ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบาย
|
หญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ปะหลิ่ม
|
|
๏ ทิศใต้ภายนอกธานี
|
มีสระสวนศรีสตาหมัน
|
มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณ
|
ล้วนแกล้งกลั่นสรรมาปลูกไว้
|
บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อย
|
ช่อช้อยชูก้านบานไสว
|
พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจ
|
มีน้ำหนักน้อยในวารี
|
อันโบกขรณีสี่เหลี่ยม
|
น้ำเปี่ยมเทียมปากสระศรี
|
ใสสะอาดปราศจากราคี
|
ดังแสงแก้วมณีรจนา
|
มีพรรณโกสุมปทุมมาลย์
|
ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นกล้า
|
เกสรร่วงลงในคงคา
|
พระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
สระบุร่ง
|
|
๏ นอกเมืองมีสระตำบลหนึ่ง
|
วารีลึกซึ้งเย็นใส
|
ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้
|
ระบัดใบบังแสงสุริยง
|
เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมา
|
แม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง
|
ประดับด้วยโกมุทบุษบง
|
ลินจงอุบลบัวบาน
|
มีพลับพลาที่ประทับยับยั้ง
|
อยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล
|
สำหรับเมืองเนื่องมาแต่โบราณ
|
ทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
พระทอง
|
|
๏ แต่กรุงดาหาธานี
|
มีคิรีวิลิศมาหรา
|
อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพา
|
มรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต
|
อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถาน
|
เชี่ยวชาญลือชาปรากฏ
|
ย่อมเป็นที่นับถือลือยศ
|
แห่งชาวชนบทพระบุรี
|
แม้นมีเหตุเภทพานประการใด
|
กับวงบนเทพไทเรืองศรี
|
ทำตามบุราณราชประเพณี
|
ถึงปีไปเคารพอภิวันท์
|
ทั้งสี่พระองค์วงศ์เทเวศร์
|
ดำรงนคเรศเกษมสันต์
|
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้น
|
เป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
|
๏
มาจะกล่าวบทไป
|
ถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา
|
แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา
|
บรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด
|
เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานี
|
แต่ก่อนตั้งบุรีสี่กษัตริย์
|
ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์
|
ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร
|
มีหมู่มาตยาเข้าเฝ้า
|
สองเหล่าพลเรือนแลทหาร
|
โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญ
|
แต่ละคนเคยชำนาญในการรบ
|
อยู่ยงคงกระพันศาสตรา
|
วิชาโล่เขนเจนจบ
|
ราชรถคชสารสินธพ
|
เลิศลบคือกว่าทุกธานี ฯ
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
อิเหนา : ชมพระนครทั้ง ๔ (๒)
- Title : อิเหนา : ชมพระนครทั้ง ๔ (๒)
- Posted by :
- Date : Tuesday, July 24, 2012
- Labels : บทละครรำ, อิเหนา
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment