(๔๐๑) ๏ เกรี่ยงลว้าปลาเค่าน้ำ สำรอง
ติดย่ามตามทำนอง น่าไม้
พรีกเกลือเมื่อขาดของ คิดคู่ หมูเอย
อร่อยอิ่มยิ้มแย้มได้ เด็กน้อยพลอยเพลินฯ
(๔๐๒) ๏ เลียบเดินเนินไม้รอบ ขอบเขา
รื่นร่มชมฉลูดเสลา สลับเลื้อย
มสังมทรางกร่างกรันเกรา กรวยกระทุ่ม ฉอุ่มเอย
เคี่ยมข่อยสร้อยฟ้าเฟื้อย เฟื่องฟุ้งจรุงรวยฯ
(๔๐๓) ๏ มไฟมเฟืองเหลืองอร่ามต้น ผลพวา
แมงคุดลมุดษีดา ดกด้วย
บูราณท่านปลูกมา มีพืด ยืดเอย
ไม้งอกซอกเหวห้วย ดอกห้อยย้อยไสวฯ
(๔๐๔) ๏ มตูมมตาดกลาศกลิ้งหล่น ล้นเหลือ
เดกใคร่ได้ไส่เรือ ร่ำค้า
เหมือนปลูกลูกดอกเฝือ ฟุ้งตลบ อบเอย
อยากอยู่ดูสนุกหน้า นั่งเหล้นเยนใจฯ
(๔๐๕) ๏ เลียบรอบขอบเขตซ้ำ ย่ำเยน
มาที่เจดีเหน แห่งถ้ำ
น้ำภุประซ่านเซน สาดปิด มิดแฮ
ต่อนั่งหลังรับน้ำ ภุไว้ได้เหนฯ
(๔๐๖) ๏ อยากดูซูเปียกน้ำ ตรำหนาว
มืดขเม่นเหนแวววาว สว่างหว้าน
ภุน้ำพร่ำพรมพราว หนาวสุด อยุดแฮ
ต่างต่างคางสั่นสท้าน สทึกสท้อนถอนใจฯ
(๔๐๗) ๏ หนาวน้ำซ้ำเปียกผ้า หน้าจ๋อย
สุมใส่ไฟโพลงพลอย ผึ่งผ้า
เพลิงแรงแฮ่งแล้วคอย ขึงอื่น ผืนแฮ
พร้อมพรั่งทังเกรี่ยงลว้า ไว่ตั้งสังเวยฯ
(๔๐๘) ๏ บุบผาสารพัดพร้อม หอมรเหย
บำบ่วงสรวงสังเวย สวัดิให้
ผลักดูปตุเผย ภอขเยื่อน เคลื่อนแฮ
แย้มช่องสองนิ้วได้ เด็กด้วยช่วยดุนฯ
(๔๐๙) ๏ ในห้องมองมืดกลุ้ม คลุ้มควัน
หอมรื่นชื่นกลิ่นจรร จากห้อง
ผลักอีกกริกกลอนดัน ดุนผลัก หนักแฮ
ปตุกลับหับกึงก้อง ปกับแหน้นแผ่นผนังฯ
(๔๑๐) ๏ โยกคลอนห่อนจได้ ไหวสเทือน
รู้เท่าเจ้าบิดเบือน บ่อให้
เยนย่ำค่ำคิดเฟือน ไฟไส่ ไว้แฮ
ไกลถิ่นสริ้นเทียรไต้ ต่างต้องกองเพลิงฯ
(๔๑๑) ๏ เหมือนรู้ครูเถ้าเล่า เราเหน
ถ้ำที่เจดีเปน ป่าซึ้ง
เบิกสลักผลักกระดอนกระเดน กระดากกลับ หับแฮ
หมดเลี่ยนเทียรน้ำผึ้ง ผักส้าปลายำฯ
(๔๑๒) ๏ คิดกลับหลับอ่อนสอื้น ตื้นใจ
กรีดกริ่งหริ่งเรไร เรื่อยร้อง
แจ้วแจ้วแว่วเสียงไส ซอรับ ขับเอย
เรื่อยเรื่อยเฉื่อยเสียงซ้อง เสนาะน้ำคำครวนฯ
(๔๑๓) ๏ เสียวทราบวาบสว่างเวิ้ง เผิงผา
เพียงพระโรงโถงฝา เฟ่าท้าว
สี่นางค่างเคียงพญา ยอดยิ่ง หญิงเอย
ไว้จุกลูกเล็กจ้าว แจ่มหน้าสง่างามฯ
(๔๑๔) ๏ ท้าทับจับปี่จ้อง ลองซอ
พร้อมพรั่งนั่งเรียงรอ เรียบร้อย
กระษัตรหัฐจบขอ คำขับ สดับแฮ
ยินชื่อฦาเลื่องถ้อย เทพท้าวกล่าวยอฯ
(๔๑๕) ๏ จำรับขับกล่อมท้าว กล่าวกลอน
ชมพระศะศริทร ถ่องฟ้า
ดาวประดับกับจรรจร แจ่มเมฆ วิเวกเอย
เพียงราชนาฎนวลหน้า นอบน้อมล้อมสลอนฯ
(๔๑๖) ๏ ท้าวชอบตอบเหล้าเรื่อง เบื้องบุราณ
ปราสาทราชวังสถาน ท่านส้าง
เขารอบขอบปรากาล เกิดห่า มาแฮ
เปนเถื่อนเกลื่อนโขลงช้าง ช่วยเฝ้าเข้าของฯ
(๔๑๗) ๏ เจดีที่อยู่ห้อง ทองพทม
ปรอดเร็จเพชปูนปสม ใส่ไว้
สำหรับกับถั่วนม เนื้อแผด แปดแฮ
ของลูกจุกจได้ เกิดสร้างปรางทองฯ
(๔๑๘) ๏ ใช่ยาอายุร้อย แสนปี
ทั่วล่าหาห่อนมี แม่นแล้ว
ปรอดฟอดรัศมี เสมอเม็จเพชเอย
ใช่พระปรอดแพร้ว พระไหว้ใช่การฯ
(๔๑๙) ๏ หนึ่งคว่างช้างเจ้าป่า งากระเดน
โป่งป่ามาคอยเขน เคียดแค้น
สมเคราะเพราะเหตุเหน ให้สวัดิ กษัตรเอย
นอนหลับทับที่แถ้น ท่านอ้างทางบุญฯ
(๔๒๐) ๏ ห้ามอย่าหาปรอดแหร้ แชเชือน
สืบทร่างทางบุญเบือน แบ่งบ้าง
มายืนหมื่นปีเฟื่อน ฝ่ายว่า บ้าแฮ
อย่าอยู่จู่หนีช้าง ช่วยให้ไปดีฯ
(๔๒๑) ๏ ปลาดหลากฝากบุตรไว้ ให้เรียน
กลอนกล่าวท้าวลัศเตียน แต่ต้น
ลูกวานอ่านรามเกียร เกิดยุกสนุกแฮ
ช้างไล่ได้พาพ้น พูดอ้อนวอนวานฯ
(๔๒๒) ๏ สว่างตื่นขึ้นเก้าค่ำ สำคัน
จาฤกเรื่องเมืองสุพรรณ ผูกไว้
เคลิ้มเหนเช่นไฝ่ฝัน ฟังเจ้า เล่าเอย
ลูกเล็กเด็กจได้ สดับห้ามสามสถานฯ
(๔๒๓) ๏ เลยลาป่าปู่เจ้า เช้าสาย
ออกจากปากปล่องหมาย มุ่งช้าง
เหนเกลื่อนเถื่อนพังพลาย พล่านสกัด อัดเอย
ล้อมรอบขอบเซาข้าง เขดเข้าเสาหินฯ
(๔๒๔) ๏ ใจหายหมายดุจเจ้า เข้าฝัน
โป่งป่ามาสกัดกัน เก่งแท้
โห่ขับกลับกลุ่มถลัน ทลวงไล่ ใกล้แฮ
อยู่จค่ำจำแก้ ก่อให้ไฟโพลงฯ
(๔๒๕) ๏ เกรี่ยงลว้ากล้าไล่ช้าง กลางโขลง
คบแกว่งแสงเพลิงโพลง พล่านร้อง
ช้างตื่นครื้นเครงโยง เหยียดป่า ล่าแฮ
เซงแซ่แปร๋แปร๋นซ้อง สนั่นหน้าป่าเปิงฯ
(๔๒๖) ๏ ฮูมฮูมอูมอื้ออึก กทึกโขลง
ป่าแหลกแตกผางโผง แผดร้อง
ฝุ่นฟุ้งพลุ่งควันโขมง มืดล่าฟ้าแฮ
สเทือนสทึกกึกก้อง เกือบเถี้ยงเสียงอึงฯ
(๔๒๗) ๏ เหนเงียบเลียบเลี้ยวออก กรอกทาง
งาหักดักเดินขวาง ไขว่ค้น
ไม้ไล่ก่ายกีดกาง เกะกะ ผงะแฮ
เหนจะไปไม่พ้น ผ่อนเข้าเสาหินฯ
(๔๒๘) ๏ บัดเดี๋ยวเกรียวตรวดแส้ แกร๋แกร๋น
ขวักไขว่ไปมาเเทน ท่องเถี้ยว
ฬ้อเล่นเช่นผัดแพน พวกเดก เลกเอย
มันไล่ไพล่ผลุนเลี้ยว ลอดเข้าเสาหินฯ
(๔๒๙) ๏ จุดไฟไล่แล้วค่อย ถอยไป
เพลิงดับกลับเวียรรไว แวดล้อม
หลอดเป่าเท่าไรไร ไม่ว่าง ช้างเอย
ดุจว่าฆ่าศึกห้อม ฮุ่มไว้ใจหายฯ
(๔๓๐) ๏ กรี่ยงลว้าหน้าไม้ส่อง ย่องบัง
ยิงแสกแปรกหน้าปั่ง ป่วนร้อง
งาหักปักขมับฉมัง หมุนป่วน ซวนแฮ
ฝูงเถื่อนเพื่อนพยุงซ้อง แซกแซ่แปร๋แปร๋นฯ
(๔๓๑) ๏ ยางน่องต้องช้างคลั่งปดัง เสียง
เพื่อนหน่วงงวงประคองเคียง เค่าไม้
ต่างห่างต่างมุ่งเมียง ฉม้ายม่าย หมายแฮ
เหลือจลี้หนีได้ เด้กน้อยหง่อยเหงาฯ
(๔๓๒) ๏ เกรี่ยงลว้าว่าไวเจ้า เขาโพรง
ช่วยขู่หมู่ช้างโขลง คลาศแคล้ว
ไปถึงจึ่งรำโรง รินเล่าเจ้าเอย
จวนค่ำร่ำว่าแล?้ว หลอดเร้าเป่าถวายฯ
(๔๓๓) ๏ บัดเจ้าเข้าหนุ่มหนั้ง สังบุเร
ลุกคึ่นยืนโซเซ ซั่นสท้าน
ยุดมือฮื่อหันเห ฮืดฮัด สบัดแฮ
เหนผิดคิดขันจ้าน จับไข้ใช่เชิงฯ
(๔๓๔) ๏ รู้ที่ผีวิ่งเข้า เดาถาม
มาแต่ไหนไขความ บอกบ้าง
พลิกผลักซักถึงสาม หนตคอกออกแฮ
ไอ้ลว้าฆ่าช้าง ฉุดไว้ใช้แทนฯ
(๔๓๕) ๏ ลวดลว้าว่าไห้ช่วย ด้วยเอย
สังบุเรเซเลย สลบแหน้
แก้ไขไม่ฟื้นเลย ฉุนคิด ผิดแฮ
จนค่ำจำจนแท้ ทุกท้อรย่อแสยงฯ
(๔๓๖) ๏ หวังยุดพุทธิเจ้าพระ ชนะมาร
โปรดปราบราพรางควาน ไขว่ล้อม
เดชะพระกุศลชาน เชินช่วย ด้วยเอย
เคลิ้มเช่นเหนพระพร้อม เชินช่วย ด้วยเอย
(๔๓๗) ๏ เกรี่ยงจามสามฉาดฟื้น ยืนหัน
หัววร่องององัน ง่วงง้ำ
สองเท่าเค่าถามผัน ผินขีกอีกแฮ
พยักน่าว่าเมื่อซ้ำ ขับน้อยคอยฟังฯ
(๔๓๘) ๏ สังบุเรเซซุดหนั้ง ยังหาว
ถามว่าตามันวาว วิ่งคว้าง
หวัวจุกลูกเลกขาว เขาช่วย ด้วยแฮ
ว่าพ่อขอบบุญจ้าง จให้ไปตามฯ
(๔๓๙) ๏ เหมือนฝันขันน้ำตรวจ สวดสัภี
พ้นทุกศุกขีศุกขี คึ่นฟ้า
โขมดโขลงโป่งป่าผี ผาศุข สนุกเอย
อย่าหน่วงหวงห้ามช้า ช่วยสร้างทางกุศลฯ
(๔๔๐) ๏ แว่วเสียงเพียงรนาดฆ้อง หนองเหนง
จวนค่ำซ้ำวังเวง หว่างไม้
ฤาเจ้าเฟ่าฟังเพลง พลอยบ่วง สวงเอ
แนะหนุ่มรุมร้องไหว้ สวัดิเจ้าเขาเขินฯ
(๔๔๑) ๏ ขับข้อยอยศท้าว กล่าวกลอน
สิงสู่อยู่สิงขร ห่อนเศร้า
พร้อมภักอักษรสมร เสมอกษัตร สวัดิเอย
ขับกล่อมน้อมแนบเฝ้า ฟุบเฟี้ยมเสงี่ยมงามฯ
(๔๔๒) ๏ สองข้อยอยศหญิ้ง สิงขร
เสวยสุขทุกภุทันดร ห่อนร้าง
ไม้งอกออกอรชร ฉัดสพรั่ง บังเอย
ชุ่มชื้นพื้นพฤกสล้าง สลับล้อมพร้อมไสวฯ
(๔๔๓) ๏ สามข้อยอยศไม้ ไพรศาร
ชื่นชุ่มภุมิภากสถาน เถื่อนกว้าง
ผลดอกออกอวยทาน อุทิศทั่ว ตัวเอย
แขนงหน่อกอกาบสล้าง เลิศลำจำเริญฯ
(๔๔๔) ๏ สี่ข้อยอยศสริ้น ถิ่นถาน
เทพทุกรุกขโรงศาร ท่านส้าง
เชิญอยู่สู่สำราน วานช่วย ด้วยเอย
กั่นโป่งโหงห่าช้าง ช่วยให้ไปสบายฯ
(๔๔๕) ๏ อยุดขับตรับเกรียบไม้ ไพรหง
เหนเยียบเงียบสงัดวง หว่างไม้
รอนรอนอ่อนอัศดง แดดดับ พยับเอย
แล่งล่าป่าเหนือไต้ เงียบสริ้นถิ่นสถานฯ
(๔๔๖) ๏ เกรี่ยงเหนเปนเด็กน้อย คอยนำ
ไว้จุกลูกจ้าวจำ จุดไต้
วู้วู้กู่สมคำ คิดเช่น เหนแฮ
ออกจากปากดงได้ ดุ่มด้อมด่อมเดินฯ
(๔๔๗) ๏ ตามลว้าพาอ้อมออก นอกทาง
มืดขเม่นเหนรางราง รกเรี้ยว
ไม้ล่ายถ่ายกิดขวางขวาง ขวันพี่ หนีเอย
เด้กดอดลอดลัดเลี้ยว ล่วงหน้ากล้าหานฯ
(๔๔๘) ๏ ออกเลมาะเหยาะเหย่าอย้อง มองรวัง
ตาเฟ่าดูหูฟัง ฝ่ายช้าง
เคลิ้มเหมือนเพื่อนหน้าหลัง เลื่อมสว่าง ทางเอย
ยามหนึ่งถึงดงสล้าง แหล่งไม้ใหญ่สูงฯ
(๔๔๙) ๏ เกรี่ยงลว้าว่าพ้นทุ่ง ฝูงโขลง
ตามไล่ไส่เพลิงโพลง พลอกม้วย
รั้งรอก่อไฟโขมง มึนเมื่อย เหนื่อยเอย
พ้นเถื่อนเดือนขึ้นด้วย สดวกได้ไคลคลาฯ
(๔๕๐) ๏ แปร๋นแปร๋แหวแว่วช้าง ข้างหลัง
เหนเหตุเดชบุญบัง บาปแคล้ว
เกรี่ยงหน้าลว้ารวัง หลังพลอด ฉอดเอย
ร่มรื่นพื้นกรวดแก้ว กจ่างพร้อยพรอยพรายฯ
(๔๕๑) ๏ พร่ำพร่ำน้ำค้างพร่าง กลางไพร
ผอยเผาะเหยาะเยนใจ แจ่มพร้อย
แน่นิ่งกิ่งก้านใบ บ่อดิกริกเอย
ด้าวเคลื่อนเดือนบ่ายคล้อย เคลือบคลุ้มพุ่มพงฯ
(๔๕๒) ๏ เดือนเอยเคยคู่เเก้ว แววตา
เกือบตกอกอาทวา ว่างแล้ว
โปรดด้วยช่วยรอรา รถสว่าง ทางเอย
อย่าเลื่อนเคลื่อนคล้อยแคล้ว คลาดข้าอาไลยฯ
(๔๕๓) ๏ เอยดูหนูหนุ่มน้อย หง่อยเหงา
เกรี่ยงเลือกเผือกมันเผา ผ่าให้
เลี้ยวลงโป่งป่ากระเบา บึงสนัด สกัดแฮ
เสือคุ่มดุ่มเดินใกล้ กลอกหน้าตาวาวฯ
(๔๕๔) ๏ เด็กเหนเปนหิ่งห้อย คอยมอง
มืดหน้าตาเสือสอง สว่างแก้ว
กวั่งเกรี่ยงเควี่ยงพยักฆ์ผยอง พยศฮืด มืดแฮ
กรวบกราบสาบสูนแล้ว หลอดโหร้โห่เสือฯ
(๔๕๕) ๏ บูราณท่านนเทียบแท้ แน่เหลือ
มืดค่ำคลำศีศะเสือ สุดราย
ซึ้งซึกพฤกษครุมเครือ ครึมทั่ว มัวเอย
ย่องย่ำคลำเสือคล้าย ท่านอ้างปางหลังฯ
(๔๕๖) ๏ เกรี่ยงลว้าบ่าแบกอุ้ม หนุ่มสบาย
ถ้าผูกลูกเลกสพาย ผากคล้อง
งุมหงุดดุจดังควาย ความรัก หนักเอย
ไก่เถื่อนเตือนขันก้อง กิ่งไม้ใสเสียงฯ
(๔๕๗) ๏ เที่ยวสนุกทุกสนัดแท้ แต่เรา
เร่ร่อนนอนป่าเขา เค่าไม้
หลงเลี้ยวเที่ยวเดินเดา ดึกดื่น สอื้นเอย
หาพระปรอดได้ เดือนร้อนอ่อนหูฯ
(๔๕๘) ๏ เช้าตรู่พรูพร้อยพร่าง ทางจร
หวานฉ่ำน้ำทศกอน เกาะไม้
ขูดได้ไส่กระบอกคอน ค่อยชื่น ขึ้นเเฮ
เปลี่ยวอกตกยากไร้ ร่อนเหร้รเหรหนฯ
(๔๕๙) ๏ วันครึ่งถึงไร่ลว้า ลาเลย
ลากวั่งสังบุเรเคย เขดแคว้น
ลงสองพี่น้องสังเวย สวัดิว่า ลาพ่อ
รุ่งเรื่อเรือล่องแหล้น ทลุถลึ้งถึงสนามฯ
(๔๖๐) ๏ โคลงแทนแผนที่ข้าง ทางสุพรรณ
เที่ยวเล่นเปนสำคัน เขดคุ้ง
ไร้นาป่าปลายจรร ทประเทศ ทุเรศเอย
เขาท่ำลำธารถุ้ง ถิ่นลว้าป่าโขลงฯ
(๔๖๑) ๏ หวังไว้ให้ลูกเต้า เหล่าหลาน
รู้เรื่องเปลืองป่วยการ เกิดร้อง
อายุวันชนะขนาน นี้พ่อ ขอเอย
แร่ปรอดยอดยากข้อน คิดไว้ให้จำฯ
(๔๖๒) ๏ โคลงไว้ใช้ชื่ออ้าง ต่างนาม
นากคปริพันตาม กบเต้น
สรล้วนส่วนอักษรสยาม สกัดแคร่ แม่นา
ซ้อนดอกบอกบ่อเว้น ว่าไว้ให้ฟังฯ
---------------๐------------------
ติดย่ามตามทำนอง น่าไม้
พรีกเกลือเมื่อขาดของ คิดคู่ หมูเอย
อร่อยอิ่มยิ้มแย้มได้ เด็กน้อยพลอยเพลินฯ
(๔๐๒) ๏ เลียบเดินเนินไม้รอบ ขอบเขา
รื่นร่มชมฉลูดเสลา สลับเลื้อย
มสังมทรางกร่างกรันเกรา กรวยกระทุ่ม ฉอุ่มเอย
เคี่ยมข่อยสร้อยฟ้าเฟื้อย เฟื่องฟุ้งจรุงรวยฯ
(๔๐๓) ๏ มไฟมเฟืองเหลืองอร่ามต้น ผลพวา
แมงคุดลมุดษีดา ดกด้วย
บูราณท่านปลูกมา มีพืด ยืดเอย
ไม้งอกซอกเหวห้วย ดอกห้อยย้อยไสวฯ
(๔๐๔) ๏ มตูมมตาดกลาศกลิ้งหล่น ล้นเหลือ
เดกใคร่ได้ไส่เรือ ร่ำค้า
เหมือนปลูกลูกดอกเฝือ ฟุ้งตลบ อบเอย
อยากอยู่ดูสนุกหน้า นั่งเหล้นเยนใจฯ
(๔๐๕) ๏ เลียบรอบขอบเขตซ้ำ ย่ำเยน
มาที่เจดีเหน แห่งถ้ำ
น้ำภุประซ่านเซน สาดปิด มิดแฮ
ต่อนั่งหลังรับน้ำ ภุไว้ได้เหนฯ
(๔๐๖) ๏ อยากดูซูเปียกน้ำ ตรำหนาว
มืดขเม่นเหนแวววาว สว่างหว้าน
ภุน้ำพร่ำพรมพราว หนาวสุด อยุดแฮ
ต่างต่างคางสั่นสท้าน สทึกสท้อนถอนใจฯ
(๔๐๗) ๏ หนาวน้ำซ้ำเปียกผ้า หน้าจ๋อย
สุมใส่ไฟโพลงพลอย ผึ่งผ้า
เพลิงแรงแฮ่งแล้วคอย ขึงอื่น ผืนแฮ
พร้อมพรั่งทังเกรี่ยงลว้า ไว่ตั้งสังเวยฯ
(๔๐๘) ๏ บุบผาสารพัดพร้อม หอมรเหย
บำบ่วงสรวงสังเวย สวัดิให้
ผลักดูปตุเผย ภอขเยื่อน เคลื่อนแฮ
แย้มช่องสองนิ้วได้ เด็กด้วยช่วยดุนฯ
(๔๐๙) ๏ ในห้องมองมืดกลุ้ม คลุ้มควัน
หอมรื่นชื่นกลิ่นจรร จากห้อง
ผลักอีกกริกกลอนดัน ดุนผลัก หนักแฮ
ปตุกลับหับกึงก้อง ปกับแหน้นแผ่นผนังฯ
(๔๑๐) ๏ โยกคลอนห่อนจได้ ไหวสเทือน
รู้เท่าเจ้าบิดเบือน บ่อให้
เยนย่ำค่ำคิดเฟือน ไฟไส่ ไว้แฮ
ไกลถิ่นสริ้นเทียรไต้ ต่างต้องกองเพลิงฯ
(๔๑๑) ๏ เหมือนรู้ครูเถ้าเล่า เราเหน
ถ้ำที่เจดีเปน ป่าซึ้ง
เบิกสลักผลักกระดอนกระเดน กระดากกลับ หับแฮ
หมดเลี่ยนเทียรน้ำผึ้ง ผักส้าปลายำฯ
(๔๑๒) ๏ คิดกลับหลับอ่อนสอื้น ตื้นใจ
กรีดกริ่งหริ่งเรไร เรื่อยร้อง
แจ้วแจ้วแว่วเสียงไส ซอรับ ขับเอย
เรื่อยเรื่อยเฉื่อยเสียงซ้อง เสนาะน้ำคำครวนฯ
(๔๑๓) ๏ เสียวทราบวาบสว่างเวิ้ง เผิงผา
เพียงพระโรงโถงฝา เฟ่าท้าว
สี่นางค่างเคียงพญา ยอดยิ่ง หญิงเอย
ไว้จุกลูกเล็กจ้าว แจ่มหน้าสง่างามฯ
(๔๑๔) ๏ ท้าทับจับปี่จ้อง ลองซอ
พร้อมพรั่งนั่งเรียงรอ เรียบร้อย
กระษัตรหัฐจบขอ คำขับ สดับแฮ
ยินชื่อฦาเลื่องถ้อย เทพท้าวกล่าวยอฯ
(๔๑๕) ๏ จำรับขับกล่อมท้าว กล่าวกลอน
ชมพระศะศริทร ถ่องฟ้า
ดาวประดับกับจรรจร แจ่มเมฆ วิเวกเอย
เพียงราชนาฎนวลหน้า นอบน้อมล้อมสลอนฯ
(๔๑๖) ๏ ท้าวชอบตอบเหล้าเรื่อง เบื้องบุราณ
ปราสาทราชวังสถาน ท่านส้าง
เขารอบขอบปรากาล เกิดห่า มาแฮ
เปนเถื่อนเกลื่อนโขลงช้าง ช่วยเฝ้าเข้าของฯ
(๔๑๗) ๏ เจดีที่อยู่ห้อง ทองพทม
ปรอดเร็จเพชปูนปสม ใส่ไว้
สำหรับกับถั่วนม เนื้อแผด แปดแฮ
ของลูกจุกจได้ เกิดสร้างปรางทองฯ
(๔๑๘) ๏ ใช่ยาอายุร้อย แสนปี
ทั่วล่าหาห่อนมี แม่นแล้ว
ปรอดฟอดรัศมี เสมอเม็จเพชเอย
ใช่พระปรอดแพร้ว พระไหว้ใช่การฯ
(๔๑๙) ๏ หนึ่งคว่างช้างเจ้าป่า งากระเดน
โป่งป่ามาคอยเขน เคียดแค้น
สมเคราะเพราะเหตุเหน ให้สวัดิ กษัตรเอย
นอนหลับทับที่แถ้น ท่านอ้างทางบุญฯ
(๔๒๐) ๏ ห้ามอย่าหาปรอดแหร้ แชเชือน
สืบทร่างทางบุญเบือน แบ่งบ้าง
มายืนหมื่นปีเฟื่อน ฝ่ายว่า บ้าแฮ
อย่าอยู่จู่หนีช้าง ช่วยให้ไปดีฯ
(๔๒๑) ๏ ปลาดหลากฝากบุตรไว้ ให้เรียน
กลอนกล่าวท้าวลัศเตียน แต่ต้น
ลูกวานอ่านรามเกียร เกิดยุกสนุกแฮ
ช้างไล่ได้พาพ้น พูดอ้อนวอนวานฯ
(๔๒๒) ๏ สว่างตื่นขึ้นเก้าค่ำ สำคัน
จาฤกเรื่องเมืองสุพรรณ ผูกไว้
เคลิ้มเหนเช่นไฝ่ฝัน ฟังเจ้า เล่าเอย
ลูกเล็กเด็กจได้ สดับห้ามสามสถานฯ
(๔๒๓) ๏ เลยลาป่าปู่เจ้า เช้าสาย
ออกจากปากปล่องหมาย มุ่งช้าง
เหนเกลื่อนเถื่อนพังพลาย พล่านสกัด อัดเอย
ล้อมรอบขอบเซาข้าง เขดเข้าเสาหินฯ
(๔๒๔) ๏ ใจหายหมายดุจเจ้า เข้าฝัน
โป่งป่ามาสกัดกัน เก่งแท้
โห่ขับกลับกลุ่มถลัน ทลวงไล่ ใกล้แฮ
อยู่จค่ำจำแก้ ก่อให้ไฟโพลงฯ
(๔๒๕) ๏ เกรี่ยงลว้ากล้าไล่ช้าง กลางโขลง
คบแกว่งแสงเพลิงโพลง พล่านร้อง
ช้างตื่นครื้นเครงโยง เหยียดป่า ล่าแฮ
เซงแซ่แปร๋แปร๋นซ้อง สนั่นหน้าป่าเปิงฯ
(๔๒๖) ๏ ฮูมฮูมอูมอื้ออึก กทึกโขลง
ป่าแหลกแตกผางโผง แผดร้อง
ฝุ่นฟุ้งพลุ่งควันโขมง มืดล่าฟ้าแฮ
สเทือนสทึกกึกก้อง เกือบเถี้ยงเสียงอึงฯ
(๔๒๗) ๏ เหนเงียบเลียบเลี้ยวออก กรอกทาง
งาหักดักเดินขวาง ไขว่ค้น
ไม้ไล่ก่ายกีดกาง เกะกะ ผงะแฮ
เหนจะไปไม่พ้น ผ่อนเข้าเสาหินฯ
(๔๒๘) ๏ บัดเดี๋ยวเกรียวตรวดแส้ แกร๋แกร๋น
ขวักไขว่ไปมาเเทน ท่องเถี้ยว
ฬ้อเล่นเช่นผัดแพน พวกเดก เลกเอย
มันไล่ไพล่ผลุนเลี้ยว ลอดเข้าเสาหินฯ
(๔๒๙) ๏ จุดไฟไล่แล้วค่อย ถอยไป
เพลิงดับกลับเวียรรไว แวดล้อม
หลอดเป่าเท่าไรไร ไม่ว่าง ช้างเอย
ดุจว่าฆ่าศึกห้อม ฮุ่มไว้ใจหายฯ
(๔๓๐) ๏ กรี่ยงลว้าหน้าไม้ส่อง ย่องบัง
ยิงแสกแปรกหน้าปั่ง ป่วนร้อง
งาหักปักขมับฉมัง หมุนป่วน ซวนแฮ
ฝูงเถื่อนเพื่อนพยุงซ้อง แซกแซ่แปร๋แปร๋นฯ
(๔๓๑) ๏ ยางน่องต้องช้างคลั่งปดัง เสียง
เพื่อนหน่วงงวงประคองเคียง เค่าไม้
ต่างห่างต่างมุ่งเมียง ฉม้ายม่าย หมายแฮ
เหลือจลี้หนีได้ เด้กน้อยหง่อยเหงาฯ
(๔๓๒) ๏ เกรี่ยงลว้าว่าไวเจ้า เขาโพรง
ช่วยขู่หมู่ช้างโขลง คลาศแคล้ว
ไปถึงจึ่งรำโรง รินเล่าเจ้าเอย
จวนค่ำร่ำว่าแล?้ว หลอดเร้าเป่าถวายฯ
(๔๓๓) ๏ บัดเจ้าเข้าหนุ่มหนั้ง สังบุเร
ลุกคึ่นยืนโซเซ ซั่นสท้าน
ยุดมือฮื่อหันเห ฮืดฮัด สบัดแฮ
เหนผิดคิดขันจ้าน จับไข้ใช่เชิงฯ
(๔๓๔) ๏ รู้ที่ผีวิ่งเข้า เดาถาม
มาแต่ไหนไขความ บอกบ้าง
พลิกผลักซักถึงสาม หนตคอกออกแฮ
ไอ้ลว้าฆ่าช้าง ฉุดไว้ใช้แทนฯ
(๔๓๕) ๏ ลวดลว้าว่าไห้ช่วย ด้วยเอย
สังบุเรเซเลย สลบแหน้
แก้ไขไม่ฟื้นเลย ฉุนคิด ผิดแฮ
จนค่ำจำจนแท้ ทุกท้อรย่อแสยงฯ
(๔๓๖) ๏ หวังยุดพุทธิเจ้าพระ ชนะมาร
โปรดปราบราพรางควาน ไขว่ล้อม
เดชะพระกุศลชาน เชินช่วย ด้วยเอย
เคลิ้มเช่นเหนพระพร้อม เชินช่วย ด้วยเอย
(๔๓๗) ๏ เกรี่ยงจามสามฉาดฟื้น ยืนหัน
หัววร่องององัน ง่วงง้ำ
สองเท่าเค่าถามผัน ผินขีกอีกแฮ
พยักน่าว่าเมื่อซ้ำ ขับน้อยคอยฟังฯ
(๔๓๘) ๏ สังบุเรเซซุดหนั้ง ยังหาว
ถามว่าตามันวาว วิ่งคว้าง
หวัวจุกลูกเลกขาว เขาช่วย ด้วยแฮ
ว่าพ่อขอบบุญจ้าง จให้ไปตามฯ
(๔๓๙) ๏ เหมือนฝันขันน้ำตรวจ สวดสัภี
พ้นทุกศุกขีศุกขี คึ่นฟ้า
โขมดโขลงโป่งป่าผี ผาศุข สนุกเอย
อย่าหน่วงหวงห้ามช้า ช่วยสร้างทางกุศลฯ
(๔๔๐) ๏ แว่วเสียงเพียงรนาดฆ้อง หนองเหนง
จวนค่ำซ้ำวังเวง หว่างไม้
ฤาเจ้าเฟ่าฟังเพลง พลอยบ่วง สวงเอ
แนะหนุ่มรุมร้องไหว้ สวัดิเจ้าเขาเขินฯ
(๔๔๑) ๏ ขับข้อยอยศท้าว กล่าวกลอน
สิงสู่อยู่สิงขร ห่อนเศร้า
พร้อมภักอักษรสมร เสมอกษัตร สวัดิเอย
ขับกล่อมน้อมแนบเฝ้า ฟุบเฟี้ยมเสงี่ยมงามฯ
(๔๔๒) ๏ สองข้อยอยศหญิ้ง สิงขร
เสวยสุขทุกภุทันดร ห่อนร้าง
ไม้งอกออกอรชร ฉัดสพรั่ง บังเอย
ชุ่มชื้นพื้นพฤกสล้าง สลับล้อมพร้อมไสวฯ
(๔๔๓) ๏ สามข้อยอยศไม้ ไพรศาร
ชื่นชุ่มภุมิภากสถาน เถื่อนกว้าง
ผลดอกออกอวยทาน อุทิศทั่ว ตัวเอย
แขนงหน่อกอกาบสล้าง เลิศลำจำเริญฯ
(๔๔๔) ๏ สี่ข้อยอยศสริ้น ถิ่นถาน
เทพทุกรุกขโรงศาร ท่านส้าง
เชิญอยู่สู่สำราน วานช่วย ด้วยเอย
กั่นโป่งโหงห่าช้าง ช่วยให้ไปสบายฯ
(๔๔๕) ๏ อยุดขับตรับเกรียบไม้ ไพรหง
เหนเยียบเงียบสงัดวง หว่างไม้
รอนรอนอ่อนอัศดง แดดดับ พยับเอย
แล่งล่าป่าเหนือไต้ เงียบสริ้นถิ่นสถานฯ
(๔๔๖) ๏ เกรี่ยงเหนเปนเด็กน้อย คอยนำ
ไว้จุกลูกจ้าวจำ จุดไต้
วู้วู้กู่สมคำ คิดเช่น เหนแฮ
ออกจากปากดงได้ ดุ่มด้อมด่อมเดินฯ
(๔๔๗) ๏ ตามลว้าพาอ้อมออก นอกทาง
มืดขเม่นเหนรางราง รกเรี้ยว
ไม้ล่ายถ่ายกิดขวางขวาง ขวันพี่ หนีเอย
เด้กดอดลอดลัดเลี้ยว ล่วงหน้ากล้าหานฯ
(๔๔๘) ๏ ออกเลมาะเหยาะเหย่าอย้อง มองรวัง
ตาเฟ่าดูหูฟัง ฝ่ายช้าง
เคลิ้มเหมือนเพื่อนหน้าหลัง เลื่อมสว่าง ทางเอย
ยามหนึ่งถึงดงสล้าง แหล่งไม้ใหญ่สูงฯ
(๔๔๙) ๏ เกรี่ยงลว้าว่าพ้นทุ่ง ฝูงโขลง
ตามไล่ไส่เพลิงโพลง พลอกม้วย
รั้งรอก่อไฟโขมง มึนเมื่อย เหนื่อยเอย
พ้นเถื่อนเดือนขึ้นด้วย สดวกได้ไคลคลาฯ
(๔๕๐) ๏ แปร๋นแปร๋แหวแว่วช้าง ข้างหลัง
เหนเหตุเดชบุญบัง บาปแคล้ว
เกรี่ยงหน้าลว้ารวัง หลังพลอด ฉอดเอย
ร่มรื่นพื้นกรวดแก้ว กจ่างพร้อยพรอยพรายฯ
(๔๕๑) ๏ พร่ำพร่ำน้ำค้างพร่าง กลางไพร
ผอยเผาะเหยาะเยนใจ แจ่มพร้อย
แน่นิ่งกิ่งก้านใบ บ่อดิกริกเอย
ด้าวเคลื่อนเดือนบ่ายคล้อย เคลือบคลุ้มพุ่มพงฯ
(๔๕๒) ๏ เดือนเอยเคยคู่เเก้ว แววตา
เกือบตกอกอาทวา ว่างแล้ว
โปรดด้วยช่วยรอรา รถสว่าง ทางเอย
อย่าเลื่อนเคลื่อนคล้อยแคล้ว คลาดข้าอาไลยฯ
(๔๕๓) ๏ เอยดูหนูหนุ่มน้อย หง่อยเหงา
เกรี่ยงเลือกเผือกมันเผา ผ่าให้
เลี้ยวลงโป่งป่ากระเบา บึงสนัด สกัดแฮ
เสือคุ่มดุ่มเดินใกล้ กลอกหน้าตาวาวฯ
(๔๕๔) ๏ เด็กเหนเปนหิ่งห้อย คอยมอง
มืดหน้าตาเสือสอง สว่างแก้ว
กวั่งเกรี่ยงเควี่ยงพยักฆ์ผยอง พยศฮืด มืดแฮ
กรวบกราบสาบสูนแล้ว หลอดโหร้โห่เสือฯ
(๔๕๕) ๏ บูราณท่านนเทียบแท้ แน่เหลือ
มืดค่ำคลำศีศะเสือ สุดราย
ซึ้งซึกพฤกษครุมเครือ ครึมทั่ว มัวเอย
ย่องย่ำคลำเสือคล้าย ท่านอ้างปางหลังฯ
(๔๕๖) ๏ เกรี่ยงลว้าบ่าแบกอุ้ม หนุ่มสบาย
ถ้าผูกลูกเลกสพาย ผากคล้อง
งุมหงุดดุจดังควาย ความรัก หนักเอย
ไก่เถื่อนเตือนขันก้อง กิ่งไม้ใสเสียงฯ
(๔๕๗) ๏ เที่ยวสนุกทุกสนัดแท้ แต่เรา
เร่ร่อนนอนป่าเขา เค่าไม้
หลงเลี้ยวเที่ยวเดินเดา ดึกดื่น สอื้นเอย
หาพระปรอดได้ เดือนร้อนอ่อนหูฯ
(๔๕๘) ๏ เช้าตรู่พรูพร้อยพร่าง ทางจร
หวานฉ่ำน้ำทศกอน เกาะไม้
ขูดได้ไส่กระบอกคอน ค่อยชื่น ขึ้นเเฮ
เปลี่ยวอกตกยากไร้ ร่อนเหร้รเหรหนฯ
(๔๕๙) ๏ วันครึ่งถึงไร่ลว้า ลาเลย
ลากวั่งสังบุเรเคย เขดแคว้น
ลงสองพี่น้องสังเวย สวัดิว่า ลาพ่อ
รุ่งเรื่อเรือล่องแหล้น ทลุถลึ้งถึงสนามฯ
(๔๖๐) ๏ โคลงแทนแผนที่ข้าง ทางสุพรรณ
เที่ยวเล่นเปนสำคัน เขดคุ้ง
ไร้นาป่าปลายจรร ทประเทศ ทุเรศเอย
เขาท่ำลำธารถุ้ง ถิ่นลว้าป่าโขลงฯ
(๔๖๑) ๏ หวังไว้ให้ลูกเต้า เหล่าหลาน
รู้เรื่องเปลืองป่วยการ เกิดร้อง
อายุวันชนะขนาน นี้พ่อ ขอเอย
แร่ปรอดยอดยากข้อน คิดไว้ให้จำฯ
(๔๖๒) ๏ โคลงไว้ใช้ชื่ออ้าง ต่างนาม
นากคปริพันตาม กบเต้น
สรล้วนส่วนอักษรสยาม สกัดแคร่ แม่นา
ซ้อนดอกบอกบ่อเว้น ว่าไว้ให้ฟังฯ
---------------๐------------------
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment